Now Reading
รู้ไว้ได้เปรียบ 5 จุดต้องเช็ค “ก่อนเซ็นสัญญากู้เงิน”

รู้ไว้ได้เปรียบ 5 จุดต้องเช็ค “ก่อนเซ็นสัญญากู้เงิน”

สัญญากู้เงิน

เชื่อว่าในสถานการณ์โควิด-19 แบบนี้ คงจะมีหลายคนที่ถูกลดเงินเดือนหรือไม่มีงานทำ แต่ค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายในชีวิตประจำกลับไม่ได้ลดตามลงไปด้วย ไม่ว่าจะเป็น ค่าเช่าบ้าน, ค่าอาหาร-ยา, ค่าหน้ากากอนามัย ฯลฯ รวมไปถึงคนที่ต้อง Work from Home ก็คงจะต้องจ่ายค่าน้ำ-ค่าไฟเพิ่มขึ้นไปอีก สำหรับคนที่มีลูกก็ยังต้องจ่ายค่าเทอมกันอยู่ หรือซื้ออุปกรณ์สำหรับการเรียนออนไลน์เพิ่มขึ้นอีกด้วย เรียกได้ว่า ค่าใช้จ่ายล้นตัว สวนทางกับรายรับเลยก็ว่าได้

 

ดังนั้น “การกู้เงิน” จึงเป็นทางออกที่ดีสำหรับคนที่ต้องการเงินเพื่อนำมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน แต่ทั้งนี้ การจะขอกู้เงินก็ต้องมีการเซ็นเอกสารประกอบการกู้เงินก่อนเสมอ ซึ่งวันนี้เราจะมาบอก 5 จุดที่ต้องเช็คก่อนเซ็นสัญญากู้เงิน เพื่อปกป้องสิทธิ์ของตนเองตามกฎหมายมาให้ได้ทราบกัน

 

ทำไมต้องให้ความสำคัญกับสัญญากู้เงิน?

 

สัญญากู้ยืมเงิน หรือสัญญาเงินกู้ เป็นเอกสารสำคัญที่ใช้สำหรับการกู้ยืมเงิน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อทั้งผู้กู้เงิน และผู้ให้กู้เงิน โดยจะมี ใบสัญญาเงินกู้ ที่จะเป็นหลักฐานการกู้ยืมเงิน และหลักฐานการชำระหนี้ ซึ่งผู้กู้จะต้องตรวจสอบรายละเอียดของสัญญากู้เงินให้ละเอียดก่อนเซ็นทุกครั้ง เพราะหากมีลายเซ็นของผู้กู้แล้ว ก็จะถือว่าผู้กู้ยอมรับเงื่อนไขหรือข้อตกลงที่อยู่ในสัญญาเป็นที่เรียบร้อย

 

5 จุดสำคัญที่ต้องเช็ค ก่อนเซ็นสัญญากู้เงิน

 

1.ยอดเงินต้นตามที่ตกลงไว้

 

ผู้กู้จะต้องตรวจสอบยอดเงินต้นที่ระบุเอาไว้ในสัญญากู้ยืม ว่าตรงกับที่ได้ตกลงกันไว้หรือไม่ เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเลขผิดพลาด หรือถูกโกงจากอีกฝ่าย ซึ่งจะส่งผลต่ออัตราดอกเบี้ยที่ผู้กู้จะต้องชำระในภายหลัง

 

2.อัตราดอกเบี้ยที่เป็นธรรม

 

แน่นอนว่าการกู้เงินก็ต้องควบคู่มากับอัตราดอกเบี้ยตามจำนวนเงินต้นที่ขอกู้ไป โดยผู้กู้ควรจะตรวจสอบว่าอัตราดอกเบี้ยนั้นเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ ซึ่งอัตราดอกเบี้ยตามที่กฎหมายกำหนดจะต้องไม่เกิน 15% ต่อปี แต่หากเป็นสถาบันการเงินหรือธนาคารอัตราดอกเบี้ยสามารถเกิน 15% ได้ แต่ต้องเป็นไปตามข้อกำหนดของธนาคารที่มีกฎหมายรองรับเช่นกัน

 

3.ยอดที่ต้องผ่อนต่อเดือน

 

สำหรับผู้ที่กู้เงินกับธนาคาร มักจะมีตารางยอดผ่อนต่อเดือนที่ผู้กู้ต้องจ่ายให้กับธนาคารหรือสถาบันการเงินนั้นๆ ในแต่ละเดือน ซึ่งผู้กู้จะต้องตรวจสอบยอดผ่อนต่อเดือนที่กำหนดไว้ในสัญญา ว่าตรงตามที่ตกลงกันไว้หรือไม่

 

4.ระยะเวลาชำระหนี้

 

ผู้กู้จะต้องตรวจสอบทั้ง วันที่เริ่มสัญญาและวันที่จบลงของสัญญาด้วย ซึ่งข้อมูลจะต้องตรงกับยอดผ่อนต่อเดือนที่ระบุเอาไว้  เพื่อให้ผู้กู้เงินสามารถจัดแจง และเตรียมเงินที่จะต้องจ่ายในแต่ละเดือน และป้องกันไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดในการชำระหนี้

 

5.เงื่อนไขการผิดชำระหนี้

 

ผู้กู้จะต้องตรวจสอบเงื่อนไขการผิดชำระหนี้ในสัญญากู้เงินให้ถี่ถ้วนก่อน เพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดในการชำระหนี้ เนื่องจากผู้กู้เงินจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบตามเงื่อนไขนั้น หากเซ็นสัญญาไปแล้ว

 

จะเห็นได้ว่า รายละเอียดที่อยู่ภายในสัญญากู้ยืมเงินมีความสำคัญต่อผู้กู้เป็นอย่างมาก ดังนั้น ผู้กู้จึงควรเสียเวลาในการอ่านสัญญากู้ยืมเงินให้ละเอียดสักเล็กน้อย เพื่อเป็นการปกป้องสิทธิ์ตามกฎหมายของตน และเพื่อไม่ให้มีข้อผิดพลาดใดๆ เกิดขึ้น เนื่องจากจะเรียกร้องเอาผิดได้ยาก เพราะผู้กู้ได้เซ็นสัญญายอมรับเงื่อนไขและข้อตกลงไปแล้ว

และหากใครสนใจติดตามเรื่องราวดีๆ เกี่ยวกับการกู้เงินก็สามารถติดตามต่อได้ที่ Pico-Money เพราะเราพร้อมจะอัปเดตทุกข้อมูลที่เกี่ยวกับการกู้เงินทั้งในและนอกระบบให้คุณทราบกันอย่างละเอียด 

What's Your Reaction?
Excited
0
Happy
0
In Love
0
Not Sure
0
Silly
0